ถ้ำดาวดึงส์ ที่ทีมงานจะแวะพาไปเที่ยวชมให้ครั้งนี้ เป็นถ้ำที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีหินงอก หินย้อยที่สวยงามแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรีเลยทีเดียว ขึ้นชื่อว่าถ้ำดาวดึงส์ ชื่อก็เป็นตัวการันตีแล้วถึงความสวยงามของถ้ำ แต่ไม่แค่นั้นชื่อถ้ำยังการันตีถึงความเหนื่อยยาก(เล็กน้อย) กว่าจะไปถึงอีกด้วย ขอบอก!

     เริ่มคร่าว ๆ จากเส้นทางที่ระหว่างขับไปทางทีมงานก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าไปถูกทางหรือเปล่า พอรู้ว่าถึงถูกที่แน่นอนทีมงานก็โล่งใจไปหนึ่งอย่าง แต่ว่าเพิ่งจะรู้ว่า ถ้าจะไปดาวดึงส์เราต้องขึ้นให้สูงกว่านี้อีก เลยขับรถขึ้นไปจอดสูงอีกหน่อย ก่อนที่จะลงเดินทางไกล

     และเนื่องจากถ้ำดาวดึงส์นี้แสงไฟไม่มี ต้องอาศัยแสงจากถ่านไฟฉาย จึงต้องมีเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญทางเป็นคนนำไป และเส้นทางที่เราจะไปต่อไปนั้น น้อง ๆ ปีนเขาเล็ก ๆ ทีมงานพากันแบกอุปกรณ์อันน้อยนิด เดินนำ้หน้าพี่เจ้าหน้าที่นำทางไปเพราะพี่เขาลืมของ เส้นทางเห็นชัดเจนอยู่แล้ว แต่ว่าสังขารไม่ค่อยจะพาไปแฮะ เดินไปได้ไม่เท่าไหร่ เริ่มลิ้นห้อยกันแล้ว อายเจ้าหน้าที่นำทางจริง ๆ พี่เค้าเดินมาทีหลังแต่แซงหน้าไปอย่างสง่างามไม่มีทีท่าเหน็ดเหนื่อย พี่เค้าบอกว่าวันนึงบางทีขึ้นหลายรอบทีเดียว กะจากสายตาคาดว่าประมาณเส้นทางระยะทาง 500 - 800 เมตรได้(500 เมตรถ้านับจากที่จอดรถด้านบน แต่จอดได้น้อยไม่ถึง 5 คัน)แต่สูงเท่าไหร่ไม่รู้ เมื่อมาถึงปากถ้ำ ก็หย่อนก้น และสูดหายใจเอาออกซิเจนเข้าปอดก่อน แล้วค่อยเดินลุยต่อ เย้!

    ทางเข้าถ้ำไม่ใหญ่มานัก ออกจะชื้น แต่มีลมถ่ายเทพอสมควร เมื่อเดินลงลึกเข้าไปจากปากถ้ำเล็กน้อย อาศัยแสงไฟกับการเกาะติดคนนำทางอย่างใกล้ชิด พี่นำทางก็ส่องไฟให้ดูเจ้าคางคกภูเขา ซึ่งหาดูที่อื่นได้ยากมาก แถมจับ ๆ ลูบ ให้ดูบอกว่าหนังมันไม่มีพิษ เป็นสัตว์ประจำถิ่นอยู่ในถ้ำนี้มานาน ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่มามักจะไม่ผิดหวัง เนื่องจากมันมักจะอาศัยอยู่บริเวณจุดเดิมที่เคยพบเป็นประจำ แต่ถ้าดวงไม่ดีจริง ๆ ก็อาจจะไม่ได้เห็น ดูจากที่พี่เค้าลูบตัว ขนาดของมันจะประมาณฝ่ามือผู้ชายที่โตแล้ว พอเดินลงไปอีกหน่อยก็เห็นลูก ๆ ของมันสี่ห้าตัว(เท่าที่เห็น) ยึดพื้นที่กันคนละมุมเหมือนคุมเชิง แต่ทีมเราก็ผ่านไปโลด

     เมื่อเข้ามาถึงภายในจะรู้สึกเลยว่าอากาศ พี่เจ้าหน้าที่พาเดินชมถ้ำห้องต่าง ๆ ที่มีเอกลักษณ์เด่น ๆ ตามชื่อห้อง เช่นโคมระย้า เจดีย์ปรางค์สามยอด ม่านฟ้า เป็นต้น ซึ่งบางภาพถ่ายมาไม่ติด เนื่องจากแสงไม่พอ แต่แนะนำว่าความงดงามที่เห็นนั้นทำให้หายเหนื่อยลงเยอะเลยทีเดียว ถ้าอยากดูให้เต็มอิ่มแนะนำถ้ามีเวลาลองแวะมาชมดู แต่ขาลงนี่เร็วกว่า และเหนื่อยน้อยกว่ากันเยอะ

     ข้อแนะนำ เนื่องจากมีการเดินขี้นเนินระยะทางพอสมควรอาจไม่เหมาะกับผู้ที่สูงวัยหรือมีปัญหาทางสุขภาพ
เปิด 8.00-16.00 น. ไม่เก็บค่าเข้าชม แต่มีค่าธรรมเนียมเจ้าหน้าที่นำทาง แล้วแต่ศรัทธา

การเดินทาง
รถยนต์ จากอำเภอเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ไปตามเส้นทาง อ.ทองผาภูมิ เลยจากทางเข้าอุทยานแห่งชาติไทรโยคไปเล็กน้อยจะถึงบ้านท่าทุ่งนา มีทางแยกซ้ายมือไปวัดดาวดึงส์ หลังจากนั้นขับรถไปตามเส้นทาง ก็จะถึงถ้ำดาวดึงส์

เส้นทางธรรมชาติก่อนถึงปากทางเข้าถ้ำ(ปากถ้ำรูปกลาง)

คางคกภูเขาสัตว์ประจำถิ่่นของถ้ำดาวดึงส์ และหินย้อยรูปโคมระย้าอันสวยงาม และเจ้าค้างคาวที่ยึดถ้ำเกือบทุกที่เป็นที่พักอาศัย

หินงอก และหินย้อยที่มาพบกันเกิดเป็นรูปร่างต่าง ๆ น่าสนใจทั้งโคมไฟ ม่านน้ำ และรูปร่างที่คล้ายพระปรางค์สามยอด (ภาพกลาง)

หลากหลายความมหัศจรรย์ของปะติมากรรมฝีมือธรรมชาติภายในถ้ำดาวดึงส์